สเพลกับการพิสูจน์เรื่องราวที่ไม่มีใครค้นพบ บทที่ 1 - นิยาย สเพลกับการพิสูจน์เรื่องราวที่ไม่มีใครค้นพบ บทที่ 1 : Dek-D.com - Writer
×

    สเพลกับการพิสูจน์เรื่องราวที่ไม่มีใครค้นพบ บทที่ 1

    สเพลเด็กที่มีพรสวรรค์ด้านวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็กกับเรื่องราวที่ไม่มีใครพิสูจน์ได้

    ผู้เข้าชมรวม

    110

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    110

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  8 ก.ย. 55 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทที่ 1 การตัดสินใจ

              วันเสาร์ที่อากาศมีเมฆสีเทาๆปกคลุมไปทั่วไปหมด มันเป็นบรรยากาศที่เป็นใจแก่สเพลและเคเกอร์ เป็นอย่างมากเพราะวันเสาร์นี้เป็นวันหยุดที่ไม่ค่อยมีคนมาโรงเรียนเท่าไร จะมีแต่พวกที่มาซ้อมเพื่อแข่งขันกิจกรรมต่างๆ สเพลและเคเกอร์ได้นัดกันมาที่โรงเรียน ยิ่งฝนตกก็ไม่ค่อยมีคนมาโรงเรียนเท่าไร เป็นโอกาสดีมากที่จะพิสูจน์เรื่องวิญญาณที่เขาอยากรู้ ทั้งสองมากันพร้อมหน้าแล้วก็เดินไปที่ ห้องทดลองกันทันที เมื่อมาถึงสเพลก็ไปหยิบหนังสือเล่มนานเล่มหนึ่งมากางออกเพื่ออ่านทันที

              “หนังสือเล่มนี้มีชื่อเรื่องว่า ความจริงที่ไม่มีใครค้นพบ”

              สเพลรีบเปิดสารบัญเพื่อค้นหาเรื่องวิญญาณหน้า 159 พอเปิดไปก็เจอในหนังสือเล่มนี้เขียนว่า

              “มีคนถกเถียงกันเยอะว่าวิญญาณมีตัวตนอยู่จริงหรือเปล่า ซึ่งจากการทดลองของดร.ดันแคน แม็กดูกัลล์ คุณหมอชาวอเมริกันพบว่าเมื่อชั่งน้ำหนักคนขณะมีชีวิตอยู่เปรียบเทียบกันพบว่าเมื่อชั่งน้ำหนักคนขณะมีชีวิตอยู่เปรียบเทียบกับน้ำหนักหลังจากเสียชีวิตทันที พบว่าน้ำหนักของคนหายไปส่วนหนึ่ง ทำให้ได้ข้อสรุปว่าน้ำหนักส่วนที่หายไปอาจจะเป็นน้ำหนักของวิญญาณก็ได้ แต่ก็ไม่มีใครพิสูจน์ได้”

              สเพลและเคเกอร์อ่านด้วยกันจึงทำให้ทั้งสองคนนี้อยู่ในสภาพหวาดกลัวขึ้นมานิดๆ
             
              “นายแน่ใจหรอว่าจะพิสูจน์เรื่องนี้ เคเกอร์เอ่ย”

              “ฉันจะต้องไม่ท้อแน่ๆ สเพลโต้กลับ”

    ทั้งสองจึงได้ตกลงกันว่า ผลจะออกมาอย่างไงก็ช่างจะสำเร็จหรือไม่ ก็คงต้องลองกันสักตั้งแล้วละและนี้คือจุดเริ่มต้นความลึกลับที่กำลังจะเกิดขึ้นมาต่อจากนี้ ฝนเริ่มหยุดตก แสงแดดก็ส่องมาที่หน้าต่างของห้องที่พวกเขาอยู่

              “ดูสิฝนหยุดตกแล้วละ กลับกันเถอะนะสเพล เคเกอร์เอ่ยอย่างนั้น”

              “อืม คงต้องไปแล้วสินะ”

    พอพวกเขาจะเดินออกไปก็มีเสียงจากด้านหลังของพวกเขาว่า

    “ขอให้พวกเธอพิสูจน์ความจริงให้ได้ก็แล้วกันนะ หึๆๆๆ”

    เสียงหัวเราะที่น่าสยองนั้นดังมาจากด้านหลังของพวกเขาทำให้พวกเขาตกใจไม่น้อยทีเดียวเลยทั้งสองมองหน้ากัน ต่างก็ตกใจกันทั้งคู่ แต่พอหันกลับมาอีกทีก็พบแต่ห้องที่ว่างเปล่ามีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นเอง

    เคเกอร์เมื่อกี้นายได้ยินเสียงอะไรรึเปล่า สเพลพูดขึ้นมาหลังได้ยินเสียง”

    “ ได...ได้ ยินสิ มันเป็นเสียงที่น่ากลัวมากเลยละ”

    ทั้งคู่มีสีหน้าที่เหมือนๆกัน และรีบเดินออกจากห้องนั้นโดยเร็วที่สุด หลังจากออกจากโรงเรียนได้แล้ว ก็แยกทางกันกลับบ้านและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย พอสเพลกลับถึงบ้านก็นึกถึงเสียงที่ได้ยินนั้นว่าเป็นเสียงใครกันแน่คิดไปคิดมาก็รู้สึกกลัวขึ้นมา แล้วก็ขนลุกพอๆกลับโดนไฟดูดอย่างไงอย่างงั้นแต่ก็ทำใจลงมือหาข้อมูลเรื่องวิญญาณในอินเทอร์เน็ตต่อไป เช่นเดียวกับเคเกอร์ที่นอนอยู่บนเตียงและนึกถึงเสียงนั้นว่าเคยได้ยินที่ไหนไหมแต่ก็นึกไม่ได้ว่าเป็นเสียงใครที่ไหน คิดไปคิดมาจนหลับตาแล้วก็เผลอหลับไป แล้วก็ฝันว่ามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในห้องทดลองที่สเพลและเคเกอร์ได้ทดลองกัน และเด็กผู้หญิงคนนั้นอยากให้ทั้งคู่ค้นหาความจริงอะไรบางอย่างให้ได้ซะ มิเช่นนั้นเด็กผู้หญิงคนนั้นก็จะไม่ได้ไปผุดไปเกิดเสียที กริ๊งๆๆๆ  เสียงนาฬิกาของเคเกอร์ดังขึ้นมา พอเคเกอร์ตื่นขึ้นก็โล่งอกที่มันเป็นความฝันไม่ใช่ความจริงหรอก พอไปถึงที่โรงเรียน ทั้งสองก็มาโรงเรียนถึงพร้อมๆกัน และก็เดินไปที่ห้องเรียนกันโดยที่ไม่มีใคร พูดอะไร จนสเพลกล่าวขึ้นว่า

              “นายยังคิดเรื่องเมื่อวานอยู่ใข่ไหมเคเกอร์”

              “ไม่ใช่แค่คิดแต่ดันไปฝันถึงเลยอะดิ มันน่ากลัวเกินจะเล่า”

              “นายฝันถึงจริงหรอ ! สเพลทำถ้าอยากรู้ขึ้นมา”

              “อืมฉันฝันว่ามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในห้องทดลองแล้วอยากให้เราทำอะไรบางอย่างให้น่ะ ไม่งั้นเธอจะไม่ได้ไปผุดไปเกิด แต่มันก็แค่ฝันมั้ง เคเกอร์บอกไปทั้งๆที่กลัวๆ”

              “ถ้านายฝันอย่างงั้นจริงอะ ฉันว่ามันคงไม่ใช่ฝันแล้วละ ฉันว่านะเราต้องมีที่ปรึกษา อย่างแท้จริงแล้วละ สเพลบอกเคเกอร์”

    ทั้งสองจึงได้หาคนที่จะมาร่วมพิสูจน์ด้วยกันอีก 1 คนโดยให้เคเกอร์ไปหา เพราะสเพลไม่ค่อยมีใครอยากพูดด้วยจึงเป็นอุปสรรค แต่เคเกอร์ก็พอจะมีเพื่อนอีก 4-5 คน จึงลองคิดดูว่าใครน่าจะเก่งเรื่องพวกวิญญาณมากที่สุด คิดไปคิดมาก็คิดขึ้นได้ว่า เพื่อนที่ชื่อ อลิซ เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่พูดไม่ค่อยเก่ง แต่รักหมดใจ เฮ้ยไม่ใช่เธอเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง แต่เรียนได้ดีทีเดียวเลย และครอบครัวก็แปลกๆพิลึกแหะ พ่อเป็นคนที่บุญช่วยมาตลอดและเหมือนจะทายใจคนอื่นได้ดี หรือไม่ก็เห็นอนาคตได้บางช่วงที่จะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมา แม่เป็นคนที่ชอบปรุงยาวิทยาศาสตร์เพื่อทดลองต่างๆ ส่วนตัวอลิซเองก็ชอบทำเครื่องรางแปลกๆขึ้นมา เช่น ตุ๊กตารับเคราะห์ สร้อยนำโชค หรือกำไลนำโชคบ้างก็เหอะแต่ครอบครัวเธอก็เป็นคนดีกันทั้งนั้นนะ เคเกอร์บอกสเพลว่าอลิซนี้แหละที่น่าจะช่วยเราได้

                                                   โปรดรออัพบทต่อไปนะค่ะ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น